04.10.2560 ทิศทางตลาด มีความผันผวน? คาดยังมีโอกาสปรับขึ้นภายใต้ Sentiment ที่เป็นบวก
มีความผันผวน? คาดยังมีโอกาสปรับขึ้น ภายใต้ Sentiment ที่เป็นบวก จากประเด็นต่างประเทศ หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงทำ New High ทั้งจากตัวเลขเศรษฐกิจ และแผนการปฏิรูปภาษีของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เสนอปรับลดลงทั้งภาษีรายได้นิติบุคคล และบุคคลธรรมดา แต่อย่างไรก็ตามคาดต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาและประกาศใช้ ขณะที่ล่าสุดมีความคาดหวังในเชิงบวกว่ามีโอกาสผ่านสภาคองเกรส ซึ่งคาดเป็นปัจจัยหนุนภาพรวมตลาดในระยะต่อไป
ขณะที่แนะติดตามเงินสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น คาดอาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้า Commodity ที่ซื้อขายในรูปเงินสหรัฐฯ มีราคาลดลง ทางด้านปัจจัยในประเทศ ค่าเงินบาทที่คาดกลับมาอยู่ในทิศทางอ่อนค่า ส่วนหนึ่งจากการที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (คาดเดือนธันวาคม’60) อาจส่งผลกระทบต่อ Fund Flow บ้าง อย่างไรก็ตามแรงซื้อขายสุทธิของต่างชาติในช่วงที่ผ่านมายังมีความผันผวน พร้อมแนะติดตามหุ้นกลุ่มส่งออกที่คาดได้รับประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า เช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
ขณะที่คาดยังได้รับปัจจัยบวกจากประเด็นเดิม โดยเฉพาะทิศทางเศรษฐกิจไทย ที่คาดดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะการส่งออก การท่องเที่ยว และการใช้จ่ายของภาครัฐฯ เป็นต้น รวมถึง (1) ราคาน้ำมัน ที่คาดยังทรงตัว ในกรอบ 50 – 52 USD ยังส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน เช่น PTT และ PTTEP เป็นต้น และ (2) การเริ่มเข้าสู่ช่วงของการประกาศงบการเงิน – 3Q/60 เริ่มจากกลุ่มธนาคารกลางเดือนนี้
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มอาหาร ได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เช่น BR เป็นต้น
(2) กลุ่มธนาคาร ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เช่น BBL, KBANK
(3) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง เช่น IVL และ PTTGC เป็นต้น
(4) กลุ่มพลังงาน เช่น TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี
ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น และ PTT ที่ผลการดำเนินงานยังมีความแข็งแกร่งต่อเนื่อง
(5) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วง 3Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น MONO และ WORK
(6) กลุ่มท่องเที่ยว ได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เช่น CENTEL, MINT และ SPA
(7) กลุ่มขนส่ง ยังได้รับผลดีจากการท่องเที่ยว เช่น AOT ส่วนที่ได้รับผลดีจากดัชนีค่าระวางเรือ เช่น PSL
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัว อยู่ที่ 2.33% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.06 อยู่ที่ 9.51
สหรัฐฯ เปิดเผย
(1) ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย.
(2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นปลายเดือนก.ย.
(3) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย.
(4) สต็อกน้ำมัน
บทวิเคราะห์ฉบับเต็ม http://bit.ly/2yW1mSZ
ติดตามข่าวสาร การลงทุน สะดวก รวดเร็ว ได้ที่ Line id: @airasecurities
ไม่มีความคิดเห็น: